25650808pm--รับรู้อย่างไรใจไม่ทุกข์

Published: Aug. 28, 2022, 8:39 a.m.

8 ส.ค. 65 - รับรู้อย่างไรใจไม่ทุกข์ : คนเรามักจะโยงสิ่งต่างๆ ไม่ได้เห็นอย่างที่มันเป็น พอไปโยงแล้วเกิดความเศร้า เกิดความสุข เกิดความเพลิดเพลิน ฉะนั้นถ้าเรารู้เท่าทัน มันก็ทำให้เราไม่ไปโยงสิ่งที่รับรู้มา ไปสู่เหตุการณ์ที่ทำให้เราเศร้าโศกเสียใจ หรือเกิดความเกิดโกรธแค้น พอเห็นบางคนหน้าตา การแต่งกาย มันพาให้เรานึกถึงคนที่เราเกลียด คนที่เขาทำร้ายเรา ก็เลยพลอยเกลียดคนนั้นไปด้วย ทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน การที่เราโยงสิ่งต่างๆ โดยไม่ทันรู้ตัว ก็ทำให้นำพาไปสู่ความทุกข์ได้ แต่ถ้าเราโยงเป็น มันก็มีประโยชน์ อย่างพระอรหันต์บางท่าน ท่านพิจารณาธรรมจากดอกบัว เห็นดอกบัวค่อยๆ ร่วง ค่อยๆ โรย หลังจากเวลาผ่านไป ท่านก็ถึงกับบรรลุธรรมได้เลย เพราะว่าดอกบัวนี่พอท่านเห็นแล้วท่านก็โยงไปถึงสังขาร สังขารของใคร สังขารตัวเอง มันไม่เที่ยง ดอกบัวมันก็ไม่เที่ยง มันร่วงโรยก็ไม่ต่างจากสังขารของเรา พอเรารู้จักโยงแบบนี้ มันเกิดธรรมเห็นธรรมขึ้นมาได้   เราอาจจะปฏิเสธการเชื่อมโยงสิ่งที่เราเห็นกับเหตุการณ์อื่นไม่ได้ แต่ถ้าเรารู้จักโยงให้เป็น เชื่อมโยงสิ่งที่เห็น ไม่ว่ารับรู้ทางตา ได้ยินทางหู ไปสู่ธรรมะ ไปสู่ความไม่เที่ยง หรือไปสู่จิตใจของเรา เห็นว่าสิ่งที่เป็น สิ่งที่เห็น มันก็สะท้อนถึงความเป็นจริงในจิตใจของเรา มันก็ทำให้เกิดปัญญา ทำให้เกิดการวางจิตวางใจต่อสิ่งต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง อันนี้ก็เรียกว่ารู้จักมีโยนิโสมนสิการ   ฉะนั้นถ้าเรามีสติก็ดี ก็ช่วยทำให้เราสามารถจะรับรู้สิ่งต่างๆ โดยที่ไม่ปรุงแต่ง หรืออย่างน้อยก็รู้ทันความปรุงแต่ง รวมทั้งเวลาเราโยง เห็นอะไรแล้วโยงไปสู่สิ่งใดก็ตาม ถ้าเรามีสติ ก็จะไม่โยงไปสู่สิ่งที่ทำให้เกิดความเศร้าหมอง จิตเป็นอกุศล แต่จะรู้จักเชื่อมโยงมาสู่การทำให้ใจเกิดปัญญา เกิดความรู้สึกนึกคิดที่เป็นกุศลขึ้นมา นี่คือสิ่งที่จะช่วยทำให้เราได้เข้าใจธรรม เห็นธรรมได้มากขึ้น หรืออย่างน้อยก็ทำให้ใจเราเป็นกุศล