25650102pm--มันก็แค่นั้นแหละ

Published: Jan. 15, 2022, 3:25 p.m.

2 ม.ค. 65 - มันก็แค่นั้นแหละ : “แล้วมันก็จะผ่านไป” มันแสดงสัจธรรมข้อหนึ่งคือ ความไม่เที่ยง หรือ”อนิจจัง” ส่วน “มันก็แค่นั้นแหละ” มันแสดงสัจธรรมที่ชื่อว่า “ทุกขัง” คือการที่มันไม่ได้ให้ความสุขกับเราอย่างเต็มที่ อย่างเต็มอิ่ม เพราะทุกอย่างมันพร่อง จึงเรียกว่า เป็น “ทุกขัง”

นี่ยังไม่นับเมื่อมันเสื่อมมันสลายก็ยิ่งเป็นทุกข์เข้าไปใหญ่ ตอนที่ได้มันมา สุขชั่วคราว แล้วก็รู้สึกเฉยๆ เพราะ “มันก็แค่นั้นแหละ” แต่พอเสียมันไป หรือมันเสื่อมดับไป ก็เสียใจ   ความเสื่อม ความเสียหรือการที่มันไม่เป็นไปดั่งใจ ก็เพราะมันขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยต่างๆมากมายที่เราไม่สามารถที่จะควบคุมได้ ถ้าเราควบคุมได้ มันก็สมหวังดั่งใจ คือไม่เสื่อมไม่เสียไม่แปรเป็นอื่น คนรักก็ยังเหมือนเดิม หรือว่าสุขภาพก็ยังเหมือนเดิม แต่ว่าทั้งหมดนี้มันล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยต่างๆมากมายที่เราควบคุมไม่ได้ เมื่อเราควบคุมไม่ได้มันก็เลยไม่เป็นไปดั่งใจหวังของเรา และการที่มันควบคุมไม่ได้ หรือไม่สมหวัง เราเรียกว่าทุกข์   ส่วนการที่มันแปรเปลี่ยนไปตามเหตุตามปัจจัยต่างๆไม่อยู่ในอำนาจของเรา อันนี้เรียกว่า “อนัตตา” อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาเป็นสัจธรรมที่ลึกซึ้ง ซึ่งที่จริงมันก็แฝงอยู่ในวลี 2 วลีนี้แหละ “มันก็แค่นั้นแหละ” แล้วก็ “แล้วมันก็จะผ่านไป”   อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา บางครั้งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจยากสำหรับหลายคน แล้วบางทีมันก็เป็นนามธรรม แต่พอเรานึกถึงหรือใคร่ครวญถึงความจริงที่ว่า “แล้วมันก็จะผ่านไป” หรือว่า “มันก็แค่นั้นแหละ” ถ้าเราเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ มันก็จะทำให้เราเข้าใจเรื่องไตรลักษณ์มากขึ้น แล้วก็จะทำให้เราเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆได้ถูกต้อง ไม่ยึดติดถือมั่นในสิ่งต่างๆเพราะว่ามันล้วนแต่แปรเปลี่ยนไป ไม่เที่ยง   ความสุขสมหวังก็ไม่เที่ยง ความทุกข์ระทมก็ไม่เที่ยง แล้วการคาดหวังความสุขอย่างเต็มที่ มันก็ไม่มีทางที่จะสัมฤทธิ์ผลได้ เพราะว่าไม่มีอะไรที่จะให้ความสุขเต็มอิ่มกับเรา ไม่มีอะไรที่จะให้ความสุขเต็มร้อย และยั่งยืนกับเราได้ ถ้าเราเข้าใจตรงนี้ เราก็จะเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆได้อย่างถูกต้อง ไม่ไปยึดติดถือมั่นกับมัน หรือว่าไม่เป็นทุกข์เมื่อมันแปรเปลี่ยนไป หรือเมื่อมันไม่เป็นไปดั่งใจหวัง